ทุกวันนี้ไม่ว่าจะหันไปทางไหน เราก็มักจะได้ยินข่าวคนโดนหลอกโอนเงินหรือถูกขโมยข้อมูลส่วนตัวกันแทบไม่เว้นวัน มิจฉาชีพออนไลน์ได้พัฒนากลโกงให้ซับซ้อนและแนบเนียนขึ้นเรื่อยๆ จนบางครั้งก็แยกแทบไม่ออก การมีความรู้และสร้างเกราะป้องกันให้ตัวเองจึงเป็นทักษะที่จำเป็นอย่างยิ่งเพื่อความปลอดภัยในทรัพย์สินและข้อมูลของเราในยุคดิจิทัลนี้ครับ
รู้จักกลโกงยอดฮิต: พวกเขามาไม้ไหนกันบ้าง?
การจะเอาชนะได้ต้องรู้เขารู้เราก่อน มาดูกันว่ากลโกงที่มิจฉาชีพนิยมใช้มีรูปแบบไหนบ้าง:
- แก๊งคอลเซ็นเตอร์: โทรมาอ้างตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ, เจ้าหน้าที่สรรพากร, หรือพนักงานบริษัทขนส่ง แจ้งว่าเรามีส่วนเกี่ยวข้องกับสิ่งผิดกฎหมายหรือมีพัสดุตกค้าง เพื่อข่มขู่ให้เรากลัวและโอนเงิน
- SMS และอีเมลหลอกลวง (Phishing): ส่งข้อความมาพร้อมลิงก์ปลอมที่อ้างว่าเป็นธนาคาร, หน่วยงานราชการ, หรือแอปพลิเคชันต่างๆ เพื่อหลอกให้เรากรอกข้อมูลส่วนตัวหรือติดตั้งแอปรีโมตดูดเงิน
- หลอกลงทุนออนไลน์: ชักชวนให้ลงทุนในแพลตฟอร์มแปลกๆ โดยอ้างว่าจะได้ผลตอบแทนสูงเกินจริงในระยะเวลาสั้นๆ ช่วงแรกอาจได้เงินจริงเล็กน้อยเพื่อให้เราตายใจและลงทุนเพิ่ม
- หลอกขายของออนไลน์: สร้างเพจหรือร้านค้าปลอมขึ้นมา ขายสินค้าราคาถูกกว่าปกติ แต่เมื่อเราโอนเงินไปแล้วก็จะไม่ส่งของและปิดเพจหนีไป
วิธีจับไต๋: สัญญาณเตือนว่านี่คือ “มิจฉาชีพ”
แม้กลโกงจะหลากหลาย แต่ก็มักจะมีจุดสังเกตที่คล้ายกัน หากเจอสถานการณ์แบบนี้ให้ตั้งสติและสงสัยไว้ก่อนเลยว่านี่คือการหลอกลวงแน่นอน การรู้ทันคือวิธี ป้องกันมิจฉาชีพออนไลน์ ที่ดีที่สุด
- เร่งรัดให้ตัดสินใจ: มักจะสร้างสถานการณ์กดดัน บีบคั้นให้เรารีบทำธุรกรรมทันทีโดยอ้างว่า “โปรโมชันจะหมดแล้ว” หรือ “ต้องรีบจัดการก่อนบัญชีถูกอายัด”
- อ้างผลตอบแทนสูงเวอร์: การลงทุนใดๆ ที่การันตีผลตอบแทนสูงอย่างน่าสงสัย ให้คิดไว้ก่อนเลยว่าเป็นไปไม่ได้
- ข้อมูลส่วนตัวคือความลับ: ไม่ว่าใครหรือหน่วยงานไหนก็ไม่มีสิทธิ์ขอรหัสผ่าน, PIN, หรือรหัส OTP จากเราเด็ดขาด
สร้างเกราะเหล็กให้ตัวเอง: ทำอย่างไรให้ปลอดภัย?
การป้องกันที่ดีที่สุดคือการสร้างเกราะให้ตัวเองแข็งแรงอยู่เสมอ ลองนำวิธีเหล่านี้ไปปรับใช้เพื่อ ป้องกันมิจฉาชีพออนไลน์ กันนะครับ:
- ตั้งสติเสมอ: เมื่อได้รับสายหรือข้อความแปลกๆ อย่าเพิ่งเชื่อ อย่าเพิ่งกลัว และที่สำคัญที่สุดคือ “อย่าเพิ่งโอน”
- ตรวจสอบก่อนเชื่อ: หากมีคนอ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานใด ให้วางสายแล้วหาเบอร์โทรศัพท์ของหน่วยงานนั้นๆ จากแหล่งที่เชื่อถือได้เพื่อโทรกลับไปตรวจสอบโดยตรง
- ไม่กดลิงก์มั่วซั่ว: ไม่ว่าจะถูกส่งมาจากใครก็ตาม หากเป็นลิงก์ที่ไม่คุ้นเคย ห้ามกดเข้าไปดูเด็ดขาด
- ตั้งรหัสผ่านให้แข็งแกร่ง: และเปิดใช้งานการยืนยันตัวตนสองขั้นตอน (2FA) ในทุกบัญชีที่ทำได้
เพียงเท่านี้การ ป้องกันมิจฉาชีพออนไลน์ ก็จะมีประสิทธิภาพขึ้นมากแล้วครับ
ถ้าพลาดท่าไปแล้ว ต้องทำอย่างไร?
หากรู้ตัวว่าเผลอโอนเงินหรือให้ข้อมูลไปแล้ว ให้รีบดำเนินการดังนี้ทันที: 1. รวบรวมหลักฐานทั้งหมด (เช่น สลิปโอนเงิน, ข้อความแชต) 2. ติดต่อธนาคารของเราทันทีเพื่อแจ้งอายัดบัญชีปลายทาง 3. แจ้งความออนไลน์ผ่านเว็บไซต์ thaipoliceonline.com โดยเร็วที่สุด การ ป้องกันมิจฉาชีพออนไลน์ หลังจากเกิดเหตุคือการลงมือให้เร็วที่สุดเพื่อเพิ่มโอกาสได้เงินคืน
สรุป: ในโลกออนไลน์ที่เต็มไปด้วยความสะดวกสบายก็แฝงไปด้วยอันตรายที่เรามองไม่เห็น การมีสติ ไม่โลภ ไม่ประมาท และคอยอัปเดตข่าวสารกลโกงใหม่ๆ อยู่เสมอ คือเกราะป้องกันที่ดีที่สุดที่จะช่วยให้เราท่องโลกดิจิทัลได้อย่างปลอดภัย